ฉีดฟิลเลอร์แก้มและศัลยกรรมดึงหน้า แตกต่างกันอย่างไร
หลายคนกำลังเตรียมตัววางแผนเกี่ยวกับการทำเสริมความงามปรับรูปหน้า ลบเลือนริ้วรอย แต่ยังลังเลอยู่ว่าจะทำศัลยกรรมดีไหม เพราะกลัวเจ็บ หรือกลัวว่าจะไม่ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ ไม่ถูกใจทำให้เสียความมั่นใจและความรู้สึก
วันนี้ Juvenile Clinic ได้รวบรวมความรู้เกี่ยวกับข้อแตกต่างกระหว่างการศัลยกรรมดึงหน้ากับการฉีดฟิลเลอร์ที่ช่วยเรื่องการปรับรูปหน้าให้เรียบตึง ดูอ่อนกว่าวัยเหมือนกัน แต่จะมีข้อแตกต่างกันอย่างไรนั้น สามารถติดตามได้ในบทความนี้
การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม หรือ การศัลยกรรมดึงหน้า ต่างก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความสะดวกของเรา หากต้องการได้ผลลัพธ์ที่ไว เห็นผลชัดเจน ไม่เจ็บตัวไม่มีแผลเป็น ก็อาจจะเลือกฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม หรือหากต้องการความคงทน ยาวนาน ไม่รีบร้อนมาก ก็เลือกการศัลยกรรมดึงหน้าได้เช่นกัน รายละเอียดมีดังนี้
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม สามารถช่วยแก้ปัญหาคนที่มีร่องแก้มลึก ซึ่งทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย ไม่สดใส ให้กลับมาดูดีสมวัยได้ เพราะเป็นการใช้สารเติมเต็ม ฉีดเข้าไปใต้ผิวหนังชั้นลึกสามารถเห็นผลความเปลี่ยนแปลงได้ทันที มีผลข้างเคียงน้อยเมื่อเทียบกับการศัลยกรรมดึงหน้า การฉีดฟิลเลอร์สามารถคงอยู่ได้ระยะเวลา 6 เดือน และเห็นผลทันทีหลังฉีด
ศัลยกรรมดึงหน้า
การศัลยกรรมดึงหน้า เป็นการผ่าตัดเพื่อแก้ไขปัญหาผิวหนังบริเวณใบหน้าที่หย่อนคล้อย โดยแพทย์จะทำการกำจัดไขมันส่วนเกินที่สะสมอยู่ชั้นใต้ผิวหนัง พร้อมทั้งดึงกล้ามเนื้อให้กระชับ โดยการผ่าตัดเพื่อแก้ไขในส่วนของร่องแก้มมีอยู่ 2 วิธี
- การผ่าตัดดึงโหนกแก้ม-ร่องแก้มเหมาะกับผู้ที่มีร่องแก้มห้อย ไม่ค่อยย่อนคล้อย โดยเป็นการผ่าตัดเปิดแผลที่ใต้ตาล่าง และหน้าหู ดึงกล้ามเนื้อโหนกแก้ม และเพื่อกระชับเนื้อเยื่อให้ตึง แล้วตัดผิวหนังส่วนเกินออก จากนั้นก็เย็บแผลให้เรียบร้อย
- การผ่าตัดดึงหน้าทั้งหน้าเหมาะกับผู้ที่มีใบหน้าหย่อนคล้อยมาก เป็นการผ่าตัดทั้งโหนกแก้ม, ร่องแก้ม, แนวกราม-คาง โดยเปิดแผลหน้าหูถึงหลังหู เปิดเลาะไปถึงชั้น กล้ามเนื้อ ตัดส่วนที่ไม่ต้องการออก แล้วเย็บให้ตึงที่สุด
การศัลยกรรมดึงหน้าสามารถคงอยู่ได้ถึง 3-4 ปี หลังการผ่าตัดอาจจะมีอาการบวมช้ำเขียว มีแผลจากการผ่าตัดและต้องใส่ผ้ารัดหน้า 24 ชั่วโมง
4 สาเหตุของการเกิดร่องแก้มลึก และวิธีแก้ไขแต่ละแบบ
ในการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มให้ดูเป็นธรรมชาตินั้น หมอที่มีประสบการณ์ต้องประเมินสาเหตุของการเกิดร่องแก้มในแต่ละคน เพื่อแก้ไขร่องแก้มลึกอย่างตรงจุด เช่น ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม โดยตรง หรือฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อช่วยให้ร่องแก้มดูตื้นขึ้น ซึ่งการเกิดร่องแก้มลึก มีสาเหตุได้จากหลายปัจจัย แบ่งออกมาเป็น 4 ปัจจัยดังนี้
เกิดจากการยุบตัวของกระดูกบริเวณใต้ตา
- มักพบในคนที่อายุ 30 ปีขึ้นไป ซึ่งมีการยุบตัวของกระดูกทั้งบริเวณใต้ตา และบริเวณร่องแก้มค่อนข้างมาก การยุบของกระดูกใต้ตาทำให้เนื้อแก้มด้านบนหย่อนลงมากองที่เหนือร่องแก้ม ทำให้ร่องแก้มลึกหากคนไข้มีสาเหตุหลักมาจากกระดูกใต้ตายุบตัวลง และหมอเน้นฉีดฟิลเลอร์ที่ร่องแก้มเพียงอย่างเดียว ก็จะทำให้ร่องแก้มของคนไข้แย่ลงกว่าเดิมได้ เนื้อจะยิ่งกองบริเวณเหนือร่องแก้มเป็นก้อนมากขึ้น หน้าจะดูอูมๆ หน้าอ้วน ดูผิดธรรมชาติควรแก้ที่ต้นเหตุด้วยการเติมฟิลเลอร์ใต้ตาครับ โดยฉีดยกผิวในชั้นกระดูกเพื่อดึงโครงสร้างผิวโดยรวมทั้งหมดขึ้นไปด้านบน จะทำให้เนื้อแก้มที่กองเหนือร่องแก้มเป็นก้อนน้อยลง และร่องแก้มตื้นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
ร่องแก้มลึกที่เกิดจากการยุบตัวของกระดูกบริเวณร่องแก้มโดยตรง
- มักพบในคนที่อายุ 20-30 ปี ซึ่งร่องแก้มยังไม่ลึกมาก และกระดูกใต้ตายังยุบตัวลงไม่มาก สามารถแก้ไขด้วยการเติมฟิลเลอร์ที่ร่องแก้มเพียงอย่างเดียวได้ครับแต่ต้อง ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ลงในชั้นกระดูกใต้กล้ามเนื้อและต้องฉีดในจุดที่ต่ำกว่าร่องแก้มเล็กน้อย ไม่ใช่ฉีดที่ร่องแก้มโดยตรง เพื่อป้องกันการดึงของกล้ามเนื้อที่ใช้ยิ้มมิฉะนั้นเมื่อเวลาผ่านไป 2-3 เดือน ฟิลเลอร์ร่องแก้ม จะโดนดึงขึ้นไปกองเป็นเนื้อเหนือร่องแก้มทำให้เป็นก้อน และจะยิ่งทำให้ร่องแก้มลึกขึ้นกว่าเดิมได้ครับ
ร่องแก้มลึกที่เกิดจากการยิ้มบ่อยๆ
จนกล้ามเนื้อที่ดึงร่องแก้มแข็งแรงเกินไป
- สามารถใช้โบท็อกเทคนิค Dermotoxin แก้ไขได้ แต่ไม่ควรแก้ด้วยโบท็อกทั้ง 100% เพราะจะทำให้การยิ้มดูแข็งๆ ไม่เป็นธรรมชาติ ควรแก้ด้วยโบท็อกแค่ 50% และที่เหลือแก้ด้วยการเติมฟิลเลอร์เทคนิค Myomodulation จะช่วยให้ร่องแก้มตื้นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติมากกว่า
- Dermotoxin คือการฉีดโบท็อกปริมาณที่น้อยมากๆ ลงในชั้นผิวหนัง เพื่อให้เส้นใยของกล้ามเนื้อที่มาเกาะกับผิวหนังชั้นบนคลายตัว โดยที่ไม่ทำให้กล้ามเนื้อชั้นล่างคลายไปด้วย เพราะในบางจุดถ้ากล้ามเนื้อคลายตัวมากเกินไป เช่นบริเวณร่องแก้ม ก็จะทำให้การยิ้มดูผิดธรรมชาติยิ้มแข็งๆ ได้
- Myomodulation เป็นการใช้ฟิลเลอร์ฉีดหนุน หรือฉีดกดกล้ามเนื้อ จะสามารถควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อได้บางส่วน ไม่แข็งเกินไปทำให้ผลออกมาดูเป็นธรรมชาติ และอยู่ได้นานกว่าโบท็อก
เกิดจากผิวแห้ง หรือตากแดดบ่อย ชั้นผิวบางลง
- จะมีลักษณะเป็นริ้วๆ ตื้นๆ ที่ร่องแก้ม สามารถใช้ฟิลเลอร์เติมความชุ่มชื้นลงในชั้นผิวหนังได้โดยตรง ควรเลือกใช้ฟิลเลอร์โมเลกุลเล็กเพื่อให้เรียบเนียนไปกับผิวไม่เป็นก้อน
การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม มีข้อดีคือสามารถแก้ปัญหาร่องแก้มลึก ได้อย่างเห็นผลและตรงจุด โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น หลังทำเห็นผลทันที โดยการฉีดฟิลเลอร์ คือสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic acid) เข้าไปบริเวณร่องแก้มที่มีปัญหา เนื้อฟิลเลอร์จะอยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน แล้วแต่รุ่น และสลายเองได้หมด 100% ไม่มีสารตกค้าง ผลลัพธ์ที่ได้จะออกมาเป็นธรรมชาติมากที่สุด
ก่อนฉีด คนไข้มีปัญหาร่องแก้มลึก เห็นเป็นเส้นชัดเจน และมีร่องน้ำตา
หลังฉีด เส้นร่องแก้มหายไปอย่างเห็นได้ชัด ช่วยให้ใบหน้าเด็กลงอย่างเป็นธรรมชาติ
เมื่อฟิลเลอร์ที่ฉีดบริเวณร่องแก้มสลายหมด สามารถเติมฟิลเลอร์ร่องแก้มใหม่ได้เรื่อย ๆ ถ้าไม่ได้เติมต่อเนื่อง ผิวบริเวณร่องแก้มจะคืนสภาพเดิม แต่แม้ฟิลเลอร์จะสลายไปแล้ว แต่ผิวก็จะยังดีกว่าก่อนเติม เพราะฟิลเลอร์จะกระตุ้นให้ร่างกายเราสร้างคอลลาเจนที่ร่องแก้มของตัวเองขึ้นมาด้วย และรักษาความชุ่มชิ้นให้ผิว
นอกจากนี้การดูแลและแก้ไขปัญหาร่องแก้มตั้งแต่เนิ่น ๆ ช่วยลดโอกาสการเกิดริ้วรอยร่องลึก ไม่ให้เพิ่มขึ้นจากเดิม และทำให้ใบหน้าโดยรวมดูเด็กลงได้อย่างชัดเจน สำหรับคนไข้ที่จะเข้ารับฉีดฟิลเลอร์ควรคำนึงถึงสองปัจจัยหลัก ๆ คือ 1.คลินิก 2.ทีมแพทย์ 3.ใช้ฟิลเลอร์ของแท้เท่านั้น เพราะคลินิกที่ได้มาตรฐานและมีทีมแพทย์ที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์จริง ๆ จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่า ผลลัพธ์ที่ออกมาจะตรงใจคุณที่สุด หากคุณสนใจฉีดฟิลเลอร์ สามารถติดต่อเข้ามาที่ JUVENILE Clinic ได้เลยทันที พวกเราขอมอบการดูแลสุขภาพผิวให้คุณ อย่างครบวงจร